คามู คามู เป็นไม้กระพุ่มที่มีขนาดย่อมราวๆ 2-4 เมตร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Myrciaria dubia มีต้นกำเนิดในพื้นที่ฝั่งของแนวป่าฝนย่านแม่น้ำอะเมซอน ที่กินอาณาเขตหลายเมือง ตั้งแต่ ประเทศบราซิล ประเทศเวเนซุเอลา ประเทศโคลัมเบีย และประเทศเปรู
มีนามในภาษาท้องถิ่นว่า Camu Camu, Camo Camo และ Cacari
มีผลม่วงอมแดงคล้ายกับผลเชอรี่ ขนาดเท่าผลมะนาวใหญ่ๆ ใบและผลสามารถทำยาแก้โรคสมุนไพรได้สารพัด มีสรรพคุณต้านการติดโรคไวรัส รักษารอยแผล งูสวัด เป็นเภสัชแก้ไข้ ปวดศรีษะ แก้โรคหอบหืด แก้อาการซึมเศร้า รักษาสมดุลทางอารมณ์ รักษาต้อ ต้อแก้วตา เพิ่มภูมิคุ้มกัน รวมทั้งการต่อต้านอนุมูลอิสระ ตลอดจนข้อเข่าเสื่อม
ในทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าศัตรูของสุขภาพและผิวพรรณที่คนเรากลัว มาจากอนุมูลอิสระ ที่ร่างกายผลิตขึ้นเองในแต่ละวัน รวมไปถึงมลพิษต่างๆ ที่มาจากสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ฝุ่นละอองที่มีอยู่ในอากาศ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันบุหรี่ แสงแดด ความเครียด ความกดดัน โดยทั่วไปแล้ว ร่างกายของเราจะสามารถขจัดตัวอนุมูลอิสระที่ว่า ได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องอาศัยตัวช่วยจากอาหารการกินต่างๆ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนประกอบ ที่ได้มาจากธรรมชาติ เช่น วิตามิน C วิตามินE เบต้า-แคโรทีน และซีลีเนียม
เพื่อช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายจากการถูกอนุมูลอิสระทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมโทรมก่อนวัย และริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ผิวพรรณเหี่ยวย่น เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรค มะเร็งบางชนิด เป็นต้น ซึ่งผลไม้ชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จัดอยู่ในอันดับต้นๆ ได้แก่ คามูคามู
จากการวิจัย และศึกษาค้นคว้าจึงได้พบว่า คามูคามูให้วิตามินซีในปริมาณสูงถึง 2,400-3,000 มิลลิกรัม/เนื้อผลสด 100 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าวิตามินซีที่มีอยู่ในส้ม ถึงราวๆ 60 เท่า และเมื่อทำการเปรียบเทียบเทียบกับมะนาวก็พบว่าให้ปริมาณวิตามินซี มากกว่าราวๆ 58 เท่า และเมื่อเทียบกับอะเซโรล่าเชอร์รี่ ที่มีสารประกอบประเภทวิตามินซีสูงแล้ว ก็ได้พบว่ามีวิตามินซี 1,357 มิลลิกรัมต่อเนื้อผลสด 100 กรัมเท่านี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า คามูคามูให้วิตามินซีสูงกว่าอะเซโรล่า เชอร์รี่
สำหรับคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ ก็ได้ค้นพบว่า ผลไม้อย่างคามูคามูนี้ มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบได้ด้วย
Camu Camu จากประเทศเปรู เป็นผลไม้ที่เมื่อเปรียบเทียบกับเลมอนแล้วมีวิตามินซีธรรมชาติมากกว่าถึง 60 เท่า ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่มีเครื่องสำอางที่เน้นเรื่อง whitening ได้ใช้วิตามินซีสกัดจาก Camu Camu มาเป็นส่วนประกอบ
วิตามินซีไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการก่อตัวของเมลานินซึ่งเป็นตัวที่ให้เกิดฝ้าและจุดด่างดำ ยังช่วยให้เม็ดสีเมลานินจางลงได้ Camu Camu ยังมีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งการทำงานของ enzyme Tyrosinase
ยิ่งไปกว่านั้น Camu Camu ยังประกอบไปด้วยสาร anti-oxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า Polyphenol ในปริมาณที่สูง เพราะอนุมูลอิสระเป็นตัวการที่ให้เกิดริ้วรอยและการหย่อนคล้อย ดังนั้น Camu Camu จึงช่วยไม่เพียงแค่ให้ผิวขาวกระจ่างใสแต่ยังผิวดูอ่อนเยาว์อีกด้วย